Selangor Turf Club กับบทบาทผู้นำวงการแข่งม้าแห่งเอเชีย

Komson Siribun
โดย Komson Siribun

ผู้เชี่ยวชาญเดิมพันกีฬา

Selangor Turf Club
Selangor Turf Club กับบทบาทผู้นำวงการแข่งม้าแห่งเอเชีย

Selangor Turf Club กับภารกิจฟื้นคืนชีพวงการแข่งม้าเอเชีย

อุตสาหกรรมแข่งม้าในเอเชียกำลังเสื่อมถอย ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา อุตสาหกรรมแข่งม้าในเอเชียได้เผชิญกับแรงกดดันมหาศาลจากการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภค การแข่งขันจากสื่อบันเทิงรูปแบบใหม่ และการเติบโตของการพนันผิดกฎหมาย สนามแข่งชื่อดังต่างพากันปิดตัวลง เช่น Singapore Turf Club ที่จะยุติกิจการในปี 2027 หลังจากจัดการแข่งขันสุดท้ายในเดือนตุลาคม 2023, สนามแข่งมาเก๊าที่ปิดตัวลงในเดือนเมษายนที่ผ่านมา และสนามราชกรีฑาสโมสรในกรุงเทพฯ ที่สิ้นสุดบทบาทในปี 2018

ปัจจัยสำคัญคือการขาดการสนับสนุนจากภาครัฐ ความยากลำบากในการควบคุมการพนันผิดกฎหมาย และการที่คนรุ่นใหม่ไม่ให้ความสนใจกับกีฬาที่เคยเป็นสัญลักษณ์ของชนชั้นสูงเหล่านี้อีกต่อไป

Selangor Turf Club ป้อมปราการสุดท้ายของวงการแข่งม้าในมาเลเซีย

สนามแข่งม้าเซอลาโงร์ (STC) ตั้งอยู่ใน Sungai Besi กรุงกัวลาลัมเปอร์ เป็นสนามแข่งที่มีอายุยาวนานกว่า 128 ปี ก่อตั้งในปี 1896 และยังคงดำเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่องแม้หลายสนามในภูมิภาคจะล้มหายไป ปัจจุบัน STC ถือเป็นสนามแข่งม้าที่ใหญ่ที่สุดและเป็นที่ยอมรับมากที่สุดในมาเลเซีย

สถานที่แห่งนี้ไม่เพียงมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ แต่ยังเป็นจุดศูนย์กลางของกิจกรรมทางวัฒนธรรมและสังคม เช่น การแข่งขัน Piala Emas Sultan Selangor ที่มีจุดประสงค์เพื่อระดมทุนช่วยเหลือกิจกรรมเพื่อสังคมในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงการจัดตั้งโรงพยาบาลม้าแห่งชาติ และโรงเรียนฝึกนักขี่ม้าฝึกหัดที่เปิดโอกาสให้เยาวชนจากพื้นที่ชนบทได้มีโอกาสเข้าสู่อาชีพนักกีฬามืออาชีพ

ยุทธศาสตร์การฟื้นฟู จากสนามแข่งม้าสู่ศูนย์กลางระดับภูมิภาค

สนามแข่งม้าสู่ศูนย์กลางระดับภูมิภาค

ในขณะที่สนามแข่งในภูมิภาคปิดตัว STC กลับกลายเป็นศูนย์รวมของเจ้าของม้าและผู้ฝึกสอนที่ต้องการย้ายฐานมายังมาเลเซีย STC ปัจจุบันมีม้ามากกว่า 800 ตัว และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีกในปีหน้า สนามแห่งนี้วางแผนจัดการแข่งขัน 55 รายการในปี 2025 พร้อมด้วยเงินรางวัลรวมกว่า RM31 ล้าน เพื่อดึงดูดนักแข่งจากทั้งในและต่างประเทศ

การแข่งขันไฮไลต์อย่าง Selangor Mile ที่จะจัดในเดือนกรกฎาคม 2025 มีเงินรางวัล RM1 ล้าน นับเป็นเงินรางวัลสูงสุดในประวัติศาสตร์ของมาเลเซียสำหรับม้ารุ่นอายุ 4 ปี โดยการแข่งขันนี้จะยกระดับภาพลักษณ์ของประเทศในเวทีแข่งม้าระดับนานาชาติ

ปรับตัวด้วยเทคโนโลยีและไลฟ์สไตล์ เพื่อดึงดูดคนรุ่นใหม่

STC กำลังเดินหน้าปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานและนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้ เช่น การติดตั้งระบบ Quantum Tote Engine ที่ช่วยให้สามารถเชื่อมต่อระบบเดิมพันกับตลาดต่างประเทศได้ ทำให้ผู้ชมและผู้เล่นสามารถเข้าถึงการเดิมพันในสนามผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลจากทั่วโลก

นอกจากนี้ ยังมีแผนเปลี่ยนพื้นสนาม Track 2 ให้เป็น Polytrack เพื่อลดผลกระทบจากสภาพอากาศและเพิ่มความถี่ในการจัดการแข่งขันตลอดปี อีกทั้ง STC กำลังศึกษาการใช้พลังงานแสงอาทิตย์เพื่อลดค่าใช้จ่ายในระยะยาวและสนับสนุนแนวทางความยั่งยืน

ในแง่การตลาด STC หันมาใช้กลยุทธ์จัดกิจกรรมเชิงไลฟ์สไตล์ เช่น Ladies' Day, Merdeka Day Celebration และอีเวนต์พิเศษที่ผสมผสานระหว่างกีฬา ดนตรี และแฟชั่น เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่สำหรับผู้ชมที่ไม่ใช่นักพนันโดยตรง

อนาคตที่ท้าทายของวงการแข่งม้า

อนาคตที่ท้าทายของวงการแข่งม้า

แม้จะมีแผนงานที่น่าตื่นเต้น แต่อุปสรรคใหญ่ยังคงอยู่ เช่น การแข่งขันจากการพนันออนไลน์ผิดกฎหมาย การขาดแคลนกฎระเบียบที่ทันสมัย และภาพลักษณ์ด้านลบของการแข่งม้าในฐานะกิจกรรมการพนัน STC ต้องใช้ทั้งความกล้า วิสัยทัศน์ และการสนับสนุนจากภาครัฐและเอกชนในการพลิกฟื้นสถานการณ์

ในเชิงสังคม STC ยังมีบทบาทสำคัญในด้านการศึกษาและการฝึกอบรมผ่านโรงเรียน Apprentice Jockey และการให้บริการทางสัตวแพทย์ผ่านโรงพยาบาลม้าแห่งชาติ ถือเป็นการสร้างระบบนิเวศที่ครอบคลุมมากกว่าการแข่งขันอย่างเดียว

สนามแข่งม้ายังมีที่ยืนในสังคมเอเชียหรือไม่?

เมื่อโลกเปลี่ยน การแข่งม้าจะต้องเปลี่ยนตาม ผู้บริหาร STC ตระหนักถึงความจำเป็นในการปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ จากสถานที่เดิมพัน ไปสู่สถานที่สร้างประสบการณ์อันหรูหราและหลากหลาย การดึงดูดกลุ่มผู้ชมรุ่นใหม่ผ่านกิจกรรมเชิงวัฒนธรรม และการเสริมสร้างบทบาททางสังคม อาจเป็นกุญแจสำคัญในการรักษาและฟื้นฟูความนิยมของกีฬานี้ในอนาคต

บทเรียนจากสโมสรแข่งม้าระดับโลก แนวทางการอยู่รอดในปัจจุบัน

การเฝ้าติดตามกรณีศึกษาจากสนามแข่งม้าในประเทศต่าง ๆ เช่น Royal Ascot ในอังกฤษ หรือสนามในออสเตรเลียและฮ่องกง แสดงให้เห็นว่า การปรับตัวอย่างต่อเนื่อง การลงทุนในเทคโนโลยี และการสร้างประสบการณ์ระดับพรีเมียมให้กับผู้ชม คือกุญแจสำคัญที่ช่วยให้สนามเหล่านี้ยังสามารถยืนหยัดอยู่ได้

Selangor Turf Club จึงสามารถนำบทเรียนเหล่านี้มาประยุกต์ใช้ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มกิจกรรมสำหรับครอบครัว, พัฒนาระบบสมาชิกและสะสมแต้ม, หรือแม้กระทั่งการร่วมมือกับแพลตฟอร์มสตรีมมิง เพื่อขยายฐานผู้ชมในยุคดิจิทัลนั่นเอง

แบ่งปันความคิดของคุณในความคิดเห็น
ต้องระบุข้อมูลทุกช่อง

บทความที่เกี่ยวข้อง

รับโบนัสเครดิตฟรีที่ดีที่สุด

ลงทะเบียนเพื่อรับข่าวสารและโปรโมชั่นจากพันธมิตรคาสิโนออนไลน์และสปอร์ตบุ๊คของเรา

คุณสามารถยกเลิกการติดตามได้ทันทีที่คุณต้องการ

หากต้องการสมัครสมาชิกคุณต้องยืนยันว่าคุณมีอายุมากกว่า 18 ปี